ดูหนัง Shane (1953) เชน เพชฌฆาตกระสุนเดือด
เชน นักแม่นปืน ผู้มีทักษะและมี อดีตอันลึกลับ ขี่ม้าเข้าไปในหุบเขาที่ห่างไกลในเขตไวโอมิง ที่มีการตั้งถิ่นฐานเบาบาง ในปี 1889 ในฐานะคนเร่ร่อน เขาได้รับการว่าจ้างให้เป็นคนงานในฟาร์มโดยโจ สตาร์เร็ตต์ เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ผู้ยากไร้ ซึ่งกำลังตั้งรกรากอยู่กับแมเรียน ภรรยาของเขา และโจอี้ ลูกชายวัยเตาะแตะของพวกเขา สตาร์เร็ตต์บอกเชนว่ากำลังทำสงครามข่มขู่กับผู้ตั้งถิ่นฐานในหุบเขา แม้ว่าพวกเขาจะอ้างสิทธิ์ในที่ดินของตนอย่างถูกต้องตามกฎหมายภายใต้พระราชบัญญัติที่ดินทำกิน แต่รูฟัส ไรเกอร์ เจ้าพ่อปศุสัตว์ผู้ไร้ความปรานีได้จ้างคนพาลและลูกน้องหลายคนเพื่อคุกคามพวกเขาและบังคับให้พวกเขาออกจากหุบเขา เชนเข้าเมืองคนเดียวเพื่อไปซื้อของที่ร้าน Grafton’s ซึ่งเป็นร้านขายของทั่วไปที่มีร้านเหล้าอยู่ข้างๆ เชนเข้าไปในร้านเหล้าที่ลูกน้องของไรเคอร์กำลังดื่มอยู่ และสั่งโซดาให้โจอี้ คริส คัลโลเวย์ ลูกน้องคนหนึ่งของไรเคอร์ เยาะเย้ยและเยาะเย้ยเชนด้วยการเทเครื่องดื่มของเขาใส่เขา แต่เชนกลับไม่สนใจและจากไป ในการเดินทางครั้งต่อไปของเชนไปยังเมืองกับครอบครัวสตาร์เร็ตต์และเจ้าของบ้านคนอื่นๆ เขาได้ต่อสู้และเอาชนะคัลโลเวย์ได้ จากนั้นเขาและสตาร์เร็ตต์ก็ชนะการทะเลาะวิวาทในบาร์กับลูกน้องคนอื่นๆ ของไรเคอร์ส่วนใหญ่ ไรเคอร์สัญญาว่าการต่อสู้ครั้งต่อไปจะเป็นการใช้ปืน ไรเคอร์จ้างแจ็ก วิลสัน มือปืนที่ไร้ยางอายและมีฝีมือเป็นที่เลื่องลือ โจอี้ชื่นชมเชน ซึ่งทำให้แม่ของเขาไม่พอใจ หลังจากที่เชนได้แสดงทักษะการยิงปืนของเขา
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Alan Ladd / อลัน แลดด์

Jean Arthur / ฌอง อาร์เธอร์

Van Heflin / แวน เฮฟลิน

Brandon deWilde / แบรนดอน เดอไวลด์

ผู้กำกับ จอร์จสตีเวนส์
รีวิวหนัง Shane (1953) เชน เพชฌฆาตกระสุนเดือด
หนังโปรดของข้าพเจ้า
เนื้อเรื่องของ Shane เรียบง่ายมากครับ ‘เชน’ ชายแปลกหน้าจากต่างถิ่นไม่มีที่มาที่ไปมาเจอครอบครัวโจ สตาร์เร็ตกำลังถูกข่มขู่ไล่ที่จากคนของไรเกอร์ เขาตอบรับคำชวนของเจ้าบ้านให้อยู่ช่วยทำงาน ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างไรเกอร์กับคนปลูกบ้านในไร่ ดูเหมือนเชนจะพบคำตอบที่สามารถสร้างความสงบสุขให้กับเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ได้
คงต้องชมบทหนังเลยครับว่ามันเล่าเรื่องเรียบง่ายได้เป็นธรรมชาติมาก ๆ ทำให้ Shane เป็นที่น่าจดจำสำหรับหนังคาวบอยแนว ๆ นี้ครับ
1. ตัวละครไรเกอร์ที่หนังสร้างให้ร้ายก็มีเหตุผลของตัวเอง เขามองว่าตัวเองมีส่วนในการต่อสู้สร้างประเทศ ดังนั้นที่ดินจึงควรเป็นของเขาใช้ในการเลี้ยงวัว ส่วนโจก็มองว่าเขาเองก็มีสิทธิในที่ดินไม่ต่างจากไรเกอร์ ในความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่าย โจเลือกจะต่อสู้ด้วยความสามัคคีของชาวไร่ด้วยกัน ส่วนไรเกอร์ถูกมองเป็นตัวร้ายเพราะพฤติกรรมคุกคามข่มขู่อีกฝ่ายตลอดเวลา
2. ตัวละครมาเรียน ภรรยาของโจดูเหมือนจะเป็นจุดที่ถ่วงดุลความเป็นหนังคาวบอยได้ดีด้วยการแสดงออกแบบภรรยาทั่วไป ซึ่งหนังคาวบอยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีตัวละครประเภทนี้มาถ่วงดุลความคิดคนดูครับ พอถึงจุดแตกหักเอะอะดวลปืนเอาเท่อย่างเดียว แต่ใน Shane เราจะเห็นมุมของผู้หญิงที่พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง
3. ตัวละครเชนเปิดเรื่องด้วยลักษณะไม่มีที่มาที่ไป แต่หนังค่อย ๆ พาเราไปสำรวจตัวตนเขาก่อนจะพบในท้ายที่สุดว่าแท้จริงแล้วที่มาที่ไปของเขาก็อยู่ที่บทสรุปตอนจบนั่นแหละ
4. ที่ชอบอีกอย่างคือพวกไรเกอร์ถึงจะร้ายก็ยังเป็นลักษณะข่มขู่คุกคามมีวางหมัดมวยบ้าง แต่กว่าจะถึงขั้นเอาชีวิตก็คือจุดที่หมดความอดทนแล้ว
5. ความสัมพันธ์ระหว่างเชนกับลูกชายของโจมันดูน่ารักเป็นธรรมชาติดีครับ เด็กมาติดชายแปลกหน้าที่สอนในสิ่งที่พ่อเขาปฏิเสธ
ฉากแอ็คชั่นใน Shane มีอยู่สองฉากซึ่งก็ทำออกมาได้ดีครับ มีฉากวางมวยในบาร์ ทำได้เจ๋งดีเมื่อเทียบกับหนังคาวบอยในยุคเดียวกัน รวมถึงฉากดวลปืนที่ไม่ต้องมีพิธีรีตองแช่กล้องนานเป็นนาที ถึงฉากแอ๊คชั่นจะไม่ใช่จุดขายของ Shane แต่ผู้กำกับก็ทำได้ดีครับ
โดยสรุปแล้ว Shane คือหนังคาวบอยที่พูดถึงความขัดแย้งในยุคก่อตั้งประเทศได้ดีทีเดียวครับ และผมก็ไม่แปลกใจว่าทำไม Shane ถึงเข้าไปอยู่ในใจใครหลาย ๆ คน ประทับใจหนังเรื่องนี้ครับ
เจาะเวลาหาอดีต
นำแสดงโดย Alan Ladd ซึ่งตอนเล่นเรื่องเชนนั้นลุงแกอายุ 40 แล้ว….แต่แกก็เล่นได้เนียนจริงๆ สำหรับบทมือปืนลึกลับมาดเข้ม หน้าตาดี ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปของแก ทำนองว่าเก่ง มีฝีมือ แต่ไม่ค่อยอยากแสดง ตามฟอร์มของพระเอก จะต่อสู้ต่อเมื่อจำเป็นเท่านั้น Alan Ladd เสียชีวิตเมื่อปี 1964 ด้วยอายุเพียง 51 ปีเท่านั้น หรือหลังจากเล่นเรื่องเชนไปได้ประมาณ 10 ปี (ข้อมูลบอกว่า ตายเพราะกินเหล้ามากไปหน่อย) ดาราเด่นอีกคนคือ เจ้าหนูโจอี้ ลูกของชาวไร่ที่ชื่นชอบเชน และเป็นคนสร้างช็อตประวัติศาสตร์ คือ ตะโกนเรียกเชนในตอนจบว่า “เชน คัมแบ็ค………” (ฉากนี้เป็นฉากคลาสิคฉากหนึ่งของวงการภาพยนต์โลก) อันนี้ก็รับบทโดย Brandon De Wilde ซึ่งตอนเล่นเรื่องเชน แกมีอายุเพียง 11 ขวบเท่านั้น (เอ้า ก็เล่นเป็นเด็กจะให้อายุเท่าไรล่ะ) …….ซึ่งหลังจากนั้นในปี 1963 แกก็ได้รางวัลออสการ์ ในงานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 35 นักสังหารที่เหน็ดเหนื่อยพยายามที่จะปักหลักกับครอบครัวที่อยู่อาศัย แต่ความขัดแย้งขัดแย้งกับผู้ตั้งถิ่นฐาน / คนเอาอกเอาใจและพื้นที่รกร้างทำให้เขาต้องทำหน้าที่หนังตะวันตกหรือที่เราเรียกกันว่าหนังคาวบอย คือหนังที่เป็นความภาคภูมิใจของคนอเมริกา เพราะเรื่องราวของหนังบอกเล่าเรื่องราวการสร้างชาติของพวกเขา จึงไม่น่าแปลกใจที่นับตั้งแต่เกิดมีธุรกิจภาพยนตร์ขึ้นมาในโลก
หนังตะวันตกได้ถูกนำมานำเสนอในฮอลลีวู้ดมาตั้งแต่เริ่มแรก จนหนังตะวันตกเริ่มเข้าสู่ยุคถดถอยในช่วงปลายทศวรรษ 1960 หลังจากที่ชาวอเมริกาส่วนหนึ่งเริ่มตั้งคำถามต่อความภาคภูมิใจในชาติ โดยเฉพาะจากสงครามเวียตนามเป็นประเด็นหลักแต่ในยุคที่หนังตะวันตกรุ่งรืองนั้น ภาพของหนังตะวันตกคือภาพสะท้อนของสังคมอเมริกาได้เป็นอย่างดี เรื่องราวของวีรบุรุษตะวันตกหลายเรื่องจึงเป็นเรื่องราวในแบบอุดมคติ และหนังตะวันตกที่สะท้อนภาพของพระเอกอุดมคติได้เป็นอย่างดีคงไม่มีเรื่องไหน จะสมบูรณ์แบบเท่า Shaneเพียงแค่ฉากเปิดเรื่องภาพของผู้ชายขี่ม้ามาแต่ไกลท่ามกลางทุ่งหญ้าและขุนเขา ผ่านสายตาของเด็กน้อยคนหนึ่งย่อมบอกถึงความเป็นบุรุษในอุดมคติได้บ้างแล้ว แม้ภายหลังเราจะพบว่าเชนอาจจะเป็นเพียงผู้ชายคนหนี่งที่มีความหลังมากมายและ เขาต้องการจะซ่อนมันไว้ แต่การกระทำของเขาที่มีต่อครอบครัวสการ์เรตมันก็คือเรื่องเหนือธรรมดาอยู่ดี เชนอาจจะอยู่ถูกที่ถูกเวลาเมื่อโจ สการ์เรตถูกคุกคามจากพวกต้อนวัวอย่างไรเกอร์ เหตุผลนี้เองที่ทำให้เชนตัดสินใจอยู่กับครอบครัวสการ์เรตไม่เพียงแค่หยุดพัก ม้าแล้วจากไปเหมือนอย่างที่อาจจะเคยทำมาก่อนกับที่อื่น ไมตรีจิตของครอบครัวสการ์เรตต์ทั้งจากโจหัวหน้าครอบครัว มาเรียนภรรยาของโจ และโจอี้ลุกชายตัวน้อยของพวกเขา คือสิ่งที่เชนอยากจะมีแต่ก็มีไม่ได้ เพราะเขาเลือกทางเดินของมือปืนและคนจรเอาไว้แล้ว