ดูหนัง School Town King (2020) แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน
เปิดเรื่องด้วยเด็กชายแร็พ บุ๊ก วัย 18 ปี และนน วัย 13 ปี ที่อาศัยอยู่ในสลัมของประเทศไทย รู้จัก “ชีวิตที่เริ่มต้นจากศูนย์” ดีแล้ว “แร็พเปอร์เด็กสลัม” เหล่านี้ที่ใฝ่ ที่จะเป็นแร็พเปอร์ที่ดีที่สุดในประเทศไทยและซื้อบ้านให้แม่ของพวกเขา กำลังดิ้นรนหาทางออกจากโรงเรียน พวกเขาเกลียดการเรียน แต่สิ่งที่พวกเขาเกลียดที่สุดคือการท่อง “บัญญัติ 12 ประการเพื่อเป็นเด็กดี” ที่เขียนโดยทหาร บางครั้งการตัดต่อที่รวดเร็วและเร้าอารมณ์ หรือด้วยการถ่ายภาพต่อเนื่องที่ยาวนาน ผู้กำกับ ไลสุวรรณชัยสร้างจังหวะของภาพยนตร์ในขณะที่เด็กชายแร็พเพื่อต่อต้านความยากจน ความไม่เท่าเทียม และระบบการศึกษาที่กดขี่ เป็นการรวมตัวของแร็พเปอร์เด็กและผู้กำกับรุ่นเยาว์ที่ร่าเริงและกลมกลืนกัน
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Rattana Kalakate / รัตนา กาละเกตุ

Thanayuth Naayutthaya

ผู้กำกับ วัฒนภูมิ ไล้สุวรรณชัย
รีวิวหนัง School Town King (2020) แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน
แบมบี้รีวิวโดยแบมบี้ ★★★★มันน่าหดหู่ที่เห็นว่าระบบการศึกษาของไทยสนับสนุนให้เยาวชนของประเทศทำตามเจ้าหน้าที่อย่างไม่ลืมหูลืมตาโดยไม่คิดวิเคราะห์เลยแม้แต่น้อย การละเลยที่โรงเรียนที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลหลายแห่งต้องเผชิญนั้น ชัดเจนว่าสิ่งนี้เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ภายใต้ระบอบการปกครองของรัฐบาลปัจจุบันสารคดีเรื่องนี้เปิดหูเปิดตาให้เห็นว่าเยาวชนของเรามีศักยภาพมากเพียงใด และบ่อยครั้งเพียงใดที่ศักยภาพและความ เหล่านี้ถูกเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตในประเทศทำลายได้ง่ายเพียงใดไปตายซะไอ้ขี้โกง!กดหู่ฉากเด็กพูดค่านิยม 12 ประการมาก an Ultimate brainwash กดเด็กไว้ใต้อำนาจ ทอดทิ้งความ ของเค้าทุกอย่างที่กำลังโตแต่ดันไม่มีใครราดลงไปที่ครันจะเบ่งบานก็โดนเด็ดซ้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าซ้ำ
วิชาติ สมแก้ว รีวิวโดยวิชาติ สมแก้ว ★★★★”บุ๊คส์” กับ”ไม่ใช่” หนุ่มๆจากสลัมคลองเตย บางครั้งในเพลง ถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตเล่าผ่านบทเพลงชอบเจคทานอาหารมากที่ทั้งซับรับและแหกขนบเพื่อทำตาม นทิศทางนั้นต้องแลกด้วยอะไรหลายอย่างอย่าง และเพื่อนของเพื่อนของคุณสมบัติคนที่ชอบภาพแทนที่ต้องอยู่ในระบบต้องการที่กล้องตามติดพิจารณานึกถึงสารคดีอีกเรื่องใน My Echo, My Shadow and Me ได้ดูเมื่อสังเกตว่า หนังสารคดีที่เล่าเกี่ยวกับเด็กในสลัมคลองเตยผ่านพื้นที่ทั่วไปในการสอบสวนโดยมีความต้องการกับซับเจคมากๆๆ
ภายใต้เพลง หนังได้วิพากษ์ระบบการศึกษาไทย การไร้ซึ่งชื่อเสียงของผู้นำประเทศ (ฉากตู่ให้มานี่จังหวะที่ดี555) ระบบอำนาจนิยมในโรงเรียนที่ผู้ใหญ่อยากให้เป็น ระบบที่ครอบระบบการศึกษา สถาบันพระมหากษัตริย์แบบเรียนและโรงเรียนมายาคติ ผ่านค่านิยม 10 หลัก ของสังคมไทยโดยตรงกดทับ และมีตัวตนน่าแปลกใจที่เด็กๆ สองคนที่ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนักต้องรอคอยนาน แต่เรื่องราวของพวกเขาก็สร้างแรงบันดาลใจได้ ฉันสนุกกับมัน แต่ในบางจุดก็รู้สึกว่ามันโอ้อวดเกินไป และดูเหมือนว่ามันพยายามจะวาดภาพเด็กๆ เหล่านี้ด้วยเรื่องราวเดียวกับศิลปินอย่าง Kendrick Lamar หรือ Joey Bada$$ แต่เห็นได้ชัดว่าข้อความที่นี่ยิ่งใหญ่กว่าเด็กสองคนที่นำเสนอ และช่วยทำให้ระบบการศึกษาของไทยกระจ่างชัดขึ้น ซึ่งดำเนินการได้ดี