ดูซีรี่ย์ Mad Unicorn (2025) สงคราม ส่งด่วน
เรื่องราวความสำเร็จของ Flash Express สู่การเป็นยูนิคอร์นตัวแรกของไทย ถูกถ่ายทอดผ่านซีรีส์ Netflix “สงครามส่งด่วน” การก่อตั้งในปี 2560 โดยคมสันต์ แซ่ลี ผู้มองเห็นโอกาสในตลาดอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโตและช่องว่างในบริการขนส่ง Flash Express สร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยกลยุทธ์ราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง บริการรับพัสดุฟรีถึงบ้าน และการให้บริการทุกวันตลอดปี พร้อมลงทุนด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เติบโตอย่างรวดเร็วและระดมทุนจนกลายเป็นยูนิคอร์นในปี 2564 แม้ว่าผลประกอบการล่าสุดจะยังคงขาดทุนจากการแข่งขันด้านราคา แต่คมสันต์ แซ่ลียังคงเชื่อมั่นในกลยุทธ์ Economies of Scale และการลงทุนด้านเทคโนโลยีในระยะยาว เรื่องราวนี้เป็นแรงบันดาลใจและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสตาร์ทอัพไทยในการสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม เรื่องราวของ Flash Express เริ่มต้นในปี 2560 โดยคุณคมสันต์ แซ่ลี บุคคลที่มาจากครอบครัวธรรมดา ไม่ได้เกิดมาพร้อมกับช้อนเงิน แต่กลับมีประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลาย ตั้งแต่การทำงานร้านขายของชำ ขายของหน้ามหาวิทยาลัย เป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงการทำงานในบริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ประสบการณ์เหล่านี้หล่อหลอมความเข้าใจในโลกธุรกิจและโลจิสติกส์ของเขา จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเขาได้เห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดของอีคอมเมิร์ซในประเทศจีน และตระหนักว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนเดียวกัน
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์

เมธิกา จีรนรภัทร

ดร.พลัง โลกศิลป์

ผู้กำกับ ณฐพล บุญประกอบ
รีวิวหนัง Mad Unicorn (2025) สงคราม ส่งด่วน
ลุยจีน Luijeen
#กระแสสงครามส่งด่วนในจีน
สงครามส่งด่วน Mad Unicorn ตอนนี้แฟนๆชาวจีนเริ่มมีการรีวิวบอกต่อกันอย่างล้นหลาม ชื่อจีน 疯狂独角兽 ซึ่งที่จีนไม่มี Netflix คนอยากดูก็ต้องมุดหาตามช่องทางธรรมชาติ แล้วเค้าเลยมีคนเปิดให้โหลดฟรีแบบเต็มๆเลย😧 แต่ใดๆคือแฟนๆชาวจีนเท่าที่อ่านจากที่รีวิวคือตั้งใจดูกันจริงจังมาก…มีการเปรียบเทียบกับผลงาน masterpiece ของไทยเรื่องๆก่อนๆทั้ง สาธุ ฉลาดเกมส์โกง ฯลฯ.
All in Movie
กลายเป็นงาน Original Netflix ของไทยที่ชอบที่สุด ประทับใจที่สุด แม้ซีรีส์จะถูกจั่วหัวว่าได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง แต่ถึงกระนั้นก็มีการอิงความจริงอยู่ไม่มาก มีเพียงแค่โครงเรื่องและตัวละครบางคนที่อิงกับเรื่องจริง และที่เหลือคือ fiction หรือเรื่องแต่งที่ถูกเสริมเติมเต็มให้ซีรีส์มีโครงสร้าง มี beat ไปในแบบของมัน ซึ่งพอซีรีส์ถูกวางให้ไม่ต้องยึดโยงกับความจริงมาก ทั้งการเติมสีตีไข่ในดีเทลระหว่าง ทำให้เรา (และน่าจะคนดูเอง) ก็เพลิดเพลินไปกับมันได้อย่างเต็มที่โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าอะไรคือเรื่องจริงหรือไม่จริง ขณะเดียวกันซีรีส์ก็ยังจับความเป็นจริงของชีวิต สะท้อนมุมของผู้คนและสังคมไว้ได้ด้วย
ซีรีส์มาโทนสเกลใหญ่ อารมณ์ก็ใหญ่ตามไปด้วยเช่นกัน แต่ก็สามารถเล่าไปได้สุดทางในอารมณ์ เป็นซีรีส์ไทยที่เล่าถึงธุรกิจสตาร์ทอัพได้อย่างจริงจัง ชัดเจน หนักแน่น กว่าซีรีส์หรือละครที่ได้เห็นมาหลายเรื่อง เพราะมันเดินเรื่องธุรกิจเป็นหลัก เส้นเรื่องรัก มิตรภาพ ความเป็นพี่น้อง ครอบครัว เหล่านี้กลายเป็นเรื่องรอง (จริง ๆ ชื่นชมสิ่งนี้มากที่ซีรีส์มันไม่ชูเส้นเรื่องรักให้เด่น แต่ขณะเดียวกันยังเล่นกับสิ่งนี้ได้อยู่ เพราะซีรีส์ไทยหลายเรื่องจะชอบชูเรื่องรักมาเป็นเรื่องหลักเสมอ) ซึ่งสามารถวางโครงสร้างแล้วประกอบกันได้อย่างลื่นไหล ให้อารมณ์หลากหลายของซีรีส์ ทั้งความจริงจัง ความติดเล่น ความบ้าน ๆ ติดดินถูกนำเสนอออกมาผ่านงานภาพ ดนตรี (ส่วนตัวชอบสกอร์ของซีรีส์ด้วย ชูได้เด่นมาก) ก็บาลานซ์กับความสนุกในเรื่องราวหลักได้ลงตัว ส่วนที่ชอบมากคือวิธีการบิวต์อารมณ์ที่มีความเล่นใหญ่หลายซีน (หรือเรียกว่าติดเบียวก็ได้ 5555) แต่เป็นความใหญ่ในระดับที่ลงตัว ไม่ได้พาให้คนดูรู้สึกว่าฝืน สิ่งนี้มันผสานไปกับความสเกลใหญ่ของตัวเรื่องได้ดีมาก
แม้ซีรีส์อาจมีจุดที่เบาในแง่ของความเชือดเฉือนทางธุรกิจ เสียดายที่มันเห็นแค่มุมของการหักหลัง การเอารัดเอาเปรียบ อาจไม่ได้เห็นการฟาดฟันทางธุรกิจด้วยกลยุทธ์อย่างจริงจัง แต่ขณะเดียวกัน การที่ซีรีส์เลือกเล่าประเด็นด้านนี้มันก็สะท้อนอีกด้านทั้งของความเป็นธุรกิจและความเป็นมนุษย์ที่มีความเทา ความหิวกระหาย ความอยากได้ สิ่งที่ทำให้มันน่าประทับใจมากคือเล่าถึงตัวละครหลักและรองได้มีหัวใจ แม้จะเป็นตัวละครที่มีความเทาก็สามารถเล่าอีกมุมได้มีมิติ แต่ที่ท็อปฟอร์มมากประจำซีรีส์ต้องยกให้นักแสดงอย่าง ไอซ์ซึ, เจนเย่ และ ดร.พลัง ที่ประคองคาแรกเตอร์นี้ได้เมามันส์ตั้งแต่ต้นยันจน ดึงเคมีระหว่างตัวละครได้แพรวพราวโดดเด่นน่าจดจำ เสริมให้โดยรวมซีรีส์ได้แข็งแรง ขณะเดียวกันก็ฟูลฟีลประทับใจ ทั้งในเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจด้วย และในฐานะมันเป็นงานซีรีส์ไทยที่นำเสนอด้วยเรี่องราวที่ไม่ค่อยถูกนำมาเล่าในพื้นที่หนัง/ซีรีส์ไทย มันสนุกมันเวิร์คจนอยากเชียร์ให้ทุกคนได้ดูกัน
parnws
⭐ 6/10
นี่ไม่ใช่แค่ซีรีส์ส่งพัสดุธรรมดาทั่วไป แต่เป็น “สนามรบของนักล่าฝัน” ที่ชีวิตคือเดิมพันสูงสุด จากเด็กชาวเขาที่ยากจนในดอยวาวีที่ไม่มีอะไรเลย สันติต้องเผชิญหน้ากับเงินก้อนโต นักธุรกิจที่น่าสงสัย คนทรยศ พันธมิตรที่ไร้ความปรานี และระบบที่ออกแบบมาเพื่อบดขยี้ใครก็ตามที่กล้าลุกขึ้นมา เมื่อคุณเริ่มดู คุณจะหยุดไม่ได้เลย 10,000/10 คนธรรมดา… ที่ไม่มีคอนเนคชั่น ไม่มีเงิน ไม่มีการสนับสนุน… ต้อง “กัดฟัน กัดฟัน แล้วก็กัดฟันอีกครั้ง” เพื่อเอาชีวิตรอด ดุร้าย – เพราะมันดิบเถื่อน ไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีตัวละครหลักที่โชคดีเหมือนในนิยาย มีเพียงเลือด น้ำตา การทรยศ และ “ระบบธุรกิจไทย” ที่โหดร้ายที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยเห็น ซีรีส์เรื่องนี้จะตบหน้าคุณให้ตื่น โหดร้าย – เพราะมันเป็นเรื่องจริง ผู้ชมจะเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าในโลกธุรกิจจริง “ความดี” ไม่ได้หมายความว่าจะชนะเสมอไป และในโลกที่ต้องแข่งกับเวลาในด้านโลจิสติกส์ หากคุณไม่มีความกล้า คุณจะไม่มีวันทำได้ ของแท้ – เพราะไม่มีการกรอง ไม่เคลือบน้ำตาลหรือขายความฝัน กล้าที่จะแสดงความจริงอันน่าเกลียดของโลกธุรกิจของไทยโดยไม่ปิดบัง สิ่งนี้สำหรับใคร – ผู้ที่ถูกระบบบดขยี้ – ผู้ที่ล้มเหลวแต่ยังอยากลุกขึ้นใหม่ – หรือใครก็ตามที่อยากรู้ว่ายูนิคอร์นของไทยตัวจริงเกิดขึ้นได้อย่างไร
cerina123
⭐ 6/10
ฉันเบื่อมากและไม่คาดหวังอะไรจากเรื่องนี้มากนักเมื่อเริ่มดู นี่เป็นเรื่องราวชีวประวัติที่ดัดแปลงมาอย่างหลวมๆ เกี่ยวกับสตาร์ทอัพ “ยูนิคอร์น” แห่งแรกของประเทศไทย ทั้งบริษัทและผู้ก่อตั้งที่ก่อตั้งบริษัท นั่นคือ Santi ฉันพบว่าตัวเองถูกดึงดูดไปกับเรื่องราวระหว่างเดวิดกับโกไลแอธที่ตกที่นั่งลำบากและร่ำรวย ตลอดเวลา ฉันรู้ว่าพวกเขาอาจใช้เสรีภาพในการแต่งเรื่องมากเกินไปในการเล่าเรื่อง… แต่ฉันจะสนใจไหม? ไม่หรอก ตัวละครที่มีชีวิตชีวาและน่ารัก เช่น Ruijie อัจฉริยะด้านเทคโนโลยีที่แปลกประหลาด, XiaoYu CFO ที่มีเหตุผลและฉลาด และแน่นอน Santi นักประดิษฐ์ที่แหวกแนวทุกคน ล้วนเห็นอกเห็นใจและเชียร์ได้ง่าย รวมทั้งให้ความบันเทิงตลอดเวลา ฉันไม่คิดว่าซีรีส์จำกัดเรื่องนี้จะได้รับรางวัลออสการ์ใดๆ แต่ก็ยังมีเนื้อหาที่เข้มข้นและดึงดูดความสนใจของฉันได้นานพอที่จะทำให้ฉันติดตามจนจบ เป็นอีกหนึ่งผู้เข้าแข่งขันที่ยอดเยี่ยมในการสานต่อมรดกของซีรีส์ฮิตระดับนานาชาติที่ Netflix พยายามจะสร้างต่อจากซีรีส์ฮิตระดับตำนานอย่าง Squid Game คำจำกัดความของคำว่า “ยูนิคอร์น” (ในธุรกิจ) ไม่เพียงแต่จะต้องมีมูลค่าเกินพันล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่ยังต้อง “สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรม” ด้วย ซึ่งหมายถึงการเสี่ยงครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงเท่านั้น แต่ยังปฏิวัติวงการอีกด้วย นี่คือจิตวิญญาณที่สม่ำเสมอที่พาฉันไปตามซีรีส์ทั้งเรื่อง คุ้มค่ากับเวลาที่จะดูมาก!
pokky
⭐ 7/10
เพอร์เฟค! เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของยูนิคอร์นตัวแรกของประเทศไทย สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คนดูอยากทำธุรกิจหรือเริ่มต้นธุรกิจได้ นักแสดงทุกคนเล่นได้สมบทบาท ไม่ใช่แค่นักแสดงหลัก นักแสดงสมทบ หรือนักแสดงรับเชิญเท่านั้น แต่ทุกคนเล่นได้ดี ภาพและเสียงก็ดีมากเช่นกัน ไอซ์ เจนนี่ และป๋อง เป็นนักแสดงที่เก่งและมีความสามารถมาก ควรได้รับรางวัล ส่วนทีมงาน ผู้กำกับ ก็ควรได้รับรางวัลเช่นกัน เป็นซีรีส์ที่สนุกมาก ไม่มีช่วงที่น่าเบื่อเลย ทุกอย่างลงตัวไปหมด แนะนำให้ทุกคนดูเลย ไม่เสียเวลาแน่นอน