Arsene Lupin (2004) อาเซน ลูแปง จอมโจรบันลือโลก

นักแสดง

Romain Duris / โรแม็ง ดูว์ริส

Pascal Greggory / ปัสกาล เกรกกอรี

ผู้กำกับ สเตฟาน มาร์ซิล

รีวิวหนัง Arsene Lupin (2004) อาเซน ลูแปง จอมโจรบันลือโลก

Mahidol University Library

เป็นชื่อที่ถูกใช้อ้างถึงบ่อยครั้งในหนังสือนวนิยาย ภาพยนตร์ หรือการ์ตูน โดยส่วนใหญ่จะบรรยายถึงจอมโจรชาวฝรั่งเศสผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการลักขโมยและการปลอมตัว ถึงแม้ว่าลูแปงจะปลอมตัวอยู่เป็นประจำแต่เราก็มักจะเห็นภาพของเขาในมาดของสุภาพบุรุษหนุ่มชุดผ้าคลุม ที่มาพร้อมหมวกทรงสูง และแว่นตาเลนส์เดียว โดยตัวละคร “อาร์แซน ลูแปง (Arsène Lupin)” นี้ปรากฏตัวครั้งแรกบนหนังสือ “Arsene Lupin Gentleman Burglar” หรือ “อาร์แซน ลูแปง สุภาพบุรุษ-จอมโจร” ในปี ค.ศ.1907 ผลงานของ Maurice Leblanc นักเขียนนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนและผจญภัยผู้มากฝีมือคนหนึ่งของฝรั่งเศส และภายหลังที่นวนิยายดังกล่าวประสบความสำเร็จก็ได้มีการตีพิมพ์ต่อมาอีกหลายเล่ม และหนึ่งในเล่มที่โด่งดังมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นการปะทะกันระหว่าง อาร์แซน ลูแปง และ เชอร์ล็อก โฮมส์ ตัวละครยอดนักสืบจากประเทศอังกฤษ ที่ภายหลังเกิดเสียงคัดค้านเนื่องจากมีคนมองว่าเป็นการฉวยโอกาสจากตัวละครในนวนิยายชื่อดังของ เซอร์อาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์ และปัญหาทางด้านลิขสิทธิ์

ทำให้ภายหลังมีการแก้ไขชื่อนักสืบคู่ปรับของลูแปงเป็น เฮอร์ล็อก โชล์มส์ (Herlock Sholmes) นอกจากจอมโจรลูแปงจะได้รับความนิยมอย่างมากในหนังสือและบทประพันธ์ต่าง ๆ ของยุโรปแล้ว ตัวละครดังกล่าวยังแผ่ขยายอิทธิพลมายังโลกฝั่งตะวันออก ไม่ว่าจะเป็น “จอมโจรลูแปงที่ 3” การ์ตูนมังงะสุดฮิตของญี่ปุ่นที่เล่าถึงหลานชายของจอมโจรลูแปง หรือจะเป็นการนำเรื่องราวของลูแปงมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างตัวละครอย่าง จอมโจรคิด หนึ่งในคู่ปรับคนสำคัญของเจ้าหนูยอดนักสืบโคนัน และล่าสุดในปี ค.ศ. 2021 ได้มีการสร้างภาพยนตร์ซีรีส์บน Netflix ชื่อ “Lupin” ที่แม้จะไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวของจอมโจรลูแปงแบบต้นฉบับ แต่เป็นการตีความรูปแบบใหม่ โดยเล่าเรื่องราวผ่าน อัสซาน จ็อป (Assane Diop) ตัวเอกของเรื่องที่มีความหลงไหลในหนังสือนวนิยาย อาร์แซน ลูแปง และยึดเอาสุภาพบุรุษจอมโจรคนดังกล่าวเป็นไอดอล

UnlimitedPower

⭐ 6/10

“Arsen Lupin” และ “Immortel” เป็นภาพยนตร์ที่ฉันได้ไปดูระหว่างเทศกาลภาพยนตร์ฝรั่งเศสที่เบลเกรด แม้ว่าฉันจะประทับใจ Arsen Lupin มาก แต่ฉันก็อดหัวเราะไม่ได้กับหนังเรื่องนี้ เหตุผลก็มีดังนี้ ประการแรกคือ “The Adventures of Arsen Lupin” เป็นหนังสือชุดที่เล่าเรื่องราวของสุภาพบุรุษจอมโจรในศตวรรษที่ 19 หนังสือชุดนี้เหมาะสำหรับแฟนนิยายโรแมนติกผจญภัย หนังเรื่องนี้พยายามยัดหนังสือเหล่านี้สองสามเล่มให้กลายเป็นเรื่องเดียว ซึ่งในความคิดของฉันถือเป็นความผิดพลาดตั้งแต่ต้น หนังเริ่มคลี่คลายเมื่อผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง และคลี่คลายต่ออีกหนึ่งชั่วโมง ซึ่งหมายความว่าหนังจะจบลงอย่างรวดเร็วเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ฉากต่างๆ กระโดดจากเรื่องหนึ่งไปสู่อีกเรื่องหนึ่งอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้อธิบายว่าใครหรือทำไม ตัวละครมาและไป สถานที่ สิ่งของ รายละเอียด… หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง คุณก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อ 2 นาทีที่แล้ว และพูดตรงๆ ก็คือคุณไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว เพราะเนื้อเรื่องพลิกผัน 360 องศาในทุกเฟรม

ในทางกลับกัน คุณกลับพบว่าตัวเองกำลังเพลิดเพลินกับการพลิกผันของเนื้อเรื่องที่ไม่น่าเชื่อและความเร็วที่มันคลี่คลายไปในทางที่แย่ ฉันทำให้คนทั้งโรงหนังหัวเราะตลอดทั้งภาคที่สองของภาพยนตร์ ตัวละครทั้งหมดสลับกัน ดังนั้นในตอนท้าย พ่อของเขาจึงพยายามฆ่าเขา (ทำไมล่ะ?!) โอ้ ใช่แล้ว และเขากำลังตามหาสมบัติซึ่งแสดงให้เห็นโดยการวางไม้กางเขนบางอันไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ เขายังดูเหมือนจะตกหลุมรักตัวละครแม่มด/ปีศาจที่พยายามใช้เขาแต่ไม่ทำ จากนั้นก็ทำ และเป็นอย่างนี้ต่อไป… ตัวละครตลกอีกตัวหนึ่งคือลูกน้องของแม่มดซึ่งมีแผ่นโลหะปิดหน้าครึ่งหนึ่งของเขา บทบาทของเขายังไม่ชัดเจนเช่นกัน เครื่องแต่งกายและฉากทำได้ดีมาก แต่ไม่ได้ช่วยแก้ไขบท การตัดต่อ และการกำกับที่แย่มากนัก ครึ่งแรกของภาพยนตร์เริ่มต้นช้าและน่าเบื่อเล็กน้อย แต่ครึ่งหลังนั้นรวดเร็ว สับสน และตลกมาก ฉันชอบหัวเราะจนตัวโยนกับพล็อตที่ไม่น่าเชื่อในครึ่งหลังของภาพยนตร์ ไม่เช่นนั้นแล้ว ก็ไม่คุ้มที่จะดูหนังเรื่องนี้

ziquemu

⭐ 7/10

หรืออะไรก็ตามที่เทียบเท่าในภาษาฝรั่งเศส (“โอ้ คุณคิดว่าคุณจะคิดอย่างไรกับหนังเรื่องนี้?”) ฉันอยู่ที่ปารีสตอนที่หนังเรื่องนี้ฉาย มันเหมือนเรื่องราวหกเรื่องในหนึ่งเดียว และทุกครั้งที่คุณคิดว่าหนังเรื่องนี้จะจบลง มันก็จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เราจะได้เห็นอัศวินเทมพลาร์โผล่มาในช่วงที่เราคิดว่าจะจบลง แต่แล้วเราก็มาพูดถึงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์กัน ไอเดียดีมาก — สุภาพบุรุษจอมโจร อธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่า การถ่ายภาพค่อนข้างดี — ภาพลักษณ์และความรู้สึกที่ดีสำหรับปารีสในสมัยก่อนนั้นยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม การตัดต่อยังขาดบางอย่าง และใช่แล้ว คริสเตน สก็อตต์ โธมัสพูดภาษาฝรั่งเศสได้ดีมาก (จริงๆ แล้ว ฉันไม่ใช่คนที่จะตัดสินอะไรหรอก — ฟังดูดีสำหรับฉัน) เป็นความพยายามที่ดีที่จะกลายเป็นหนังที่สนุกสนานได้อย่างแท้จริงหากไม่ได้เขียนโดยทีมงานนักเขียนเจ็ดคนที่ไม่ได้สื่อสารกัน (หรือดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น) และอีกสิ่งหนึ่ง — เรื่องจอมโจรนั้นค่อนข้างไร้สาระ ผู้ชายเดินเข้าไปในห้อง ผู้หญิงสวมสร้อยคอและต่างหูที่อลังการมาก แต่พวกเธอไม่เคยสังเกตว่าเขากำลังฉีกมันออก ฉันคิดว่าตอนนั้นคงมีปัญหาด้านการรับรู้บางอย่าง (บางทีอาจยังไม่มีการค้นพบ “การสัมผัส”) ซึ่งอาจทำให้เพื่อนของเราอย่างอาร์แซนรู้สึกดีขึ้น แต่ถ้าไม่เช่นนั้น ฉันไม่มีคำอธิบาย ดังนั้น หากคุณต้องการชมภาพยนตร์ฝรั่งเศสเรื่องใหม่ที่มีคุณค่าการผลิตดีและฝึกฝนภาษาฝรั่งเศสของคุณ ก็สนุกไปกับมันได้เลย หากคุณต้องการชมภาพยนตร์ฝรั่งเศสดีๆ สักเรื่อง ยังมีภาพยนตร์อีกมากมายที่คุ้มค่ากับเวลาของคุณ

alf-50

⭐ 6/10

ฉันเดาว่าการสร้างบทภาพยนตร์ยาว 1-2 ชั่วโมงสำหรับตัวละครดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ฉันกลัวว่าการเลือกของโปรดักชั่นจะผิดพลาดตั้งแต่ต้น ภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามแสดงให้เห็นว่า Arsène Lupin กลายเป็นใครได้อย่างไร พยายามมอบกุญแจบางส่วนที่นำเขาไปสู่ชีวิตที่ฟุ่มเฟือย แต่ถึงแม้ในการพยายามครั้งนี้ ทุกอย่างก็ผิดพลาด Arsène ไม่ได้ฆ่าคน ? โอเค แต่สิ่งนี้มอบให้ผู้ชมเป็นข้อเท็จจริงตั้งแต่ต้น และภาพยนตร์ทั้งหมดมีแนวโน้มที่จะผลักดันให้เขาแก้แค้นอาชญากรเพื่อคนเลวทั้งหมดที่เขาต้องทนทุกข์ทรมาน ฉันหมายความว่าตัวละครของเขาถูกหล่อหลอมมาแล้ว ดังนั้นภาพยนตร์จึงไม่ได้บอกใบ้ให้คุณรู้ว่าอย่างไร และในทางตรงกันข้าม ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาไม่มีผลตามมาใดๆ แล้วประเด็นคืออะไร ? วิธีที่ฉันจินตนาการถึง Arsène Lupin ก็คือเป็นสุภาพบุรุษที่ฉลาดมาก แม้ว่าในตอนแรกเขาจะไม่มีอะไรเลยนอกจากเด็กเลว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมการเลือก Romain Duris จึงทำให้ฉันประหลาดใจมาก ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นนักแสดงที่ดี แต่เขากลับดูเหมือนเด็กเลวมากกว่าสุภาพบุรุษชาวอังกฤษที่ฉลาด เขายิ้มฝืนๆ บนใบหน้าที่แข็งกร้าว ในขณะที่ลูปินมักจะยิ้มเยาะอยู่เสมอ ฉันเห็นด้วยว่าประเด็นนี้สามารถพูดคุยกันเป็นชั่วโมงได้ เนื่องจากตัวละครในหนังสือต้นฉบับนั้นมีทั้งสองอย่าง ในที่สุด ตัวละครของลูปิน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนฉวยโอกาส แต่ก็ฉลาดมากและมักจะคิดล่วงหน้ามาก เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะวิ่งตรงเข้าไปข้างในกับดัก ฉันอยากเห็น “Ocean’s Eleven” มากกว่านี้ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาตอบสนองต่อเหตุการณ์มากกว่าที่จะทำให้มันเกิดขึ้นตามแผนที่วางไว้ โดยรวมแล้ว เป็นภาพยนตร์ที่ดี มีการแสดงที่ดีและฉากที่สวยงาม (ฉันประหลาดใจมากกับ “Place de l’opera” ที่ดูเหมือนปี 19xx) แต่ไม่ค่อยยุติธรรมกับคุณภาพของตัวละครในหนังสือ