Marian Rivera มารีแอน ริเวร่า

ผลงานภาพยนตร์

Ballot (2024) บัตรเลือดตั้ง

เอ็มมี่เป็นครูที่อาศัยอยู่กับเอ็นโซลูกชายของเธอในเมืองที่ไม่มีชื่อในซัลวาดอร์ เบเนดิกโต เธอเป็นเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งที่คอยตรวจสอบกระบวนการลงคะแนนเสียงที่จัดขึ้นในโรงเรียนของเธอ ซึ่งกลายเป็นหน่วยลงคะแนนเสียงในช่วงการเลือกตั้งปี 2550การรณรงค์หาเสียงครั้งนี้เต็มไปด้วยการสังหารและการแย่งชิงบัตรลงคะแนนเสียงโดยกลุ่มที่นำโดยมิกส์ รวมถึงการซื้อคะแนนเสียงสำหรับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี ซึ่งมีเอ็ดราลีน อดีตนักแสดงที่หาเสียงโดยใช้นโยบายการเปลี่ยนแปลง และฮิดัลโก ผู้ดำรงตำแหน่งที่ทุจริตและเป็นเจ้าของธุรกิจหลายแห่งและปฏิบัติต่อพนักงานของเธออย่างไม่ดี รวมถึงเพื่อนของเอ็มมี่ด้วย การเลือกตั้งดำเนินไปอย่างดุเดือด โดยมีเพียงผลการนับคะแนนจากเขตเลือกตั้งของเอ็มมี่เท่านั้น ตัวแทนคณะ กรรมการการเลือกตั้งปรากฏตัวที่โรงเรียนและขอให้คนคุ้มกันขนหีบบัตรลงคะแนนที่มีผลคะแนนไปให้ผู้ว่าการ เอ็มมี่อาสาและมีเพื่อนร่วมงานชื่อแว็กส์มาด้วย ก่อนจากไป ผู้อำนวยการได้ใส่กุญแจมือเอ็มมี่ไว้ที่หีบบัตรลงคะแนนเพื่อปกป้องคะแนนเสียงข้างใน ระหว่างทาง

ตัวแทนคณะกรรมการการเลือกตั้งพยายามติดสินบนพวกเขาให้ยอมมอบหีบบัตรลงคะแนนให้ แต่เมื่อทั้งสองคนปฏิเสธ เขาก็ชักปืนออกมาและทำร้ายแว็กส์จนเสียชีวิต เอ็มมี่ทุบหีบบัตรลงคะแนนของเธอจนเสียชีวิตและหนีไป เอ็มมี่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของรถบรรทุกที่วิ่งผ่าน แต่ต่อมาก็หนีเข้าไปในป่าหลังจากได้ยินตำรวจที่จุดตรวจบอกให้คนขับเงียบเกี่ยวกับการเสียชีวิตของวากส์และตัวแทนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เอ็มมี่โทรหาเอ็นโซ ซึ่งอยู่กับเมลิสสา ลูกพี่ลูกน้องของเธอและจิมโบ ลูกชายของเธอ ตำรวจสองนาย คือ โมราเลสและพาสเตอร์ มาถึงและจับกุมเอ็นโซที่ซ่อนโทรศัพท์ของเขาไว้ ในเรือนจำ เจ้าหน้าที่บอกเอ็นโซว่าเอ็มมี่เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมวากส์และตัวแทนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง จิมโบตามเอ็นโซไปที่สถานีตำรวจ แต่ถูกมิกส์จับตัวเป็นตัวประกันพร้อมกับเมลิสสา เขาเรียกร้องให้เอ็มมี่เปิดเผยที่อยู่ของเธอ แต่จิมโบแทงมิกส์ ส่งผลให้จิมโบเองและเมลิสสาเสียชีวิต ขณะที่เอ็มมี่ฟังอยู่ ขณะนัดพบกัน เอ็มมี่แทงคอมิกส์ด้วยปากกาและผลักเขาลงไปตามทางลาดจนเสียชีวิต

Rewind (2024) รึไวนด์ หมุนเวลา มาหารัก

เรื่องราวเริ่มต้นที่ การ์ธิก ชายหนุ่มที่ทำงานในบริษัทไอทีแห่งหนึ่ง เขาเป็นคนฉลาด แต่ค่อนข้างเก็บตัวและมีนิสัยที่ค่อนข้างขี้อาย การ์ธิกมักใช้ชีวิตอยู่ในโลกของตัวเอง จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบกับ ชานติ หญิงสาวที่ทำให้ชีวิตที่แสนเรียบง่ายของเขาเปลี่ยนไป การพบกันครั้งแรกของการ์ธิกและชานติเป็นเรื่องบังเอิญในลิฟต์ของตึกสำนักงาน การ์ธิกตกหลุมรักชานติทันทีที่ได้เห็นเธอ ด้วยความที่ชานติเป็นคนสดใสและเปิดเผย เธอช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดในชีวิตของเขา อย่างไรก็ตาม การสานสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะชานติมีอดีตที่เจ็บปวดและยังคงไม่พร้อมที่จะเปิดใจให้ใคร การ์ธิกตัดสินใจใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะใจชานติ เขาใช้วิธีการที่ซื่อสัตย์และจริงใจที่สุดในการเข้าไปใกล้เธอ และในขณะเดียวกัน เขาเริ่มค้นพบตัวตนใหม่ของตัวเองที่ไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ ในช่วงเวลาที่การ์ธิกคิดว่าความสัมพันธ์ของเขากับชานติกำลังไปได้ดี เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อชานติตัดสินใจที่จะจากไปโดยไม่บอกเหตุผล การ์ธิกที่เสียใจอย่างสุดซึ้งเริ่มตั้งคำถามว่าเขาทำอะไรผิด และสิ่งที่เขาสามารถทำได้เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม จุดเปลี่ยนของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อการ์ธิกค้นพบอุปกรณ์ลึกลับในห้องทดลองเก่าของนักฟิสิกส์ผู้ล่วงลับ อุปกรณ์นี้คือเครื่องย้อนเวลาที่สามารถพาเขากลับไปยังช่วงเวลาที่ผ่านมาได้ การ์ธิกตัดสินใจใช้เครื่องย้อนเวลาเพื่อกลับไปแก้ไขสิ่งที่เขาคิดว่าทำให้ชานติตัดสินใจจากเขาไป การเดินทางข้ามเวลาเริ่มต้นขึ้น

การ์ธิกพยายามเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับชานติ แต่ทุกครั้งที่เขาเปลี่ยนแปลงอดีต ผลลัพธ์กลับไม่เป็นอย่างที่เขาคาดหวัง เหตุการณ์บางอย่างกลับกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้น และในบางครั้งการเปลี่ยนแปลงก็ทำให้เขาและชานติห่างไกลกันมากขึ้น ขณะที่การ์ธิกพยายามแก้ไขอดีตครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเริ่มเรียนรู้บทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความรักและความเสียสละ เขาเข้าใจว่าความรักไม่สามารถสร้างขึ้นจากการควบคุมหรือการบังคับ และในที่สุดเขาตระหนักว่าการยอมรับในสิ่งที่เป็นอยู่และปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นตามธรรมชาติอาจเป็นคำตอบที่แท้จริง ในตอนท้าย การ์ธิกเลือกที่จะใช้เครื่องย้อนเวลาเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ใช่เพื่อแก้ไขอดีต แต่เพื่อทำความเข้าใจความผิดพลาดของตัวเองและยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เขาตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปในปัจจุบันด้วยความหวังว่าความรักแท้จะนำพาเขากลับมาพบกับชานติอีกครั้ง “Rewind” นำเสนอเรื่องราวความรักที่ทั้งซาบซึ้งและเต็มไปด้วยความตึงเครียด ด้วยการผสมผสานองค์ประกอบไซไฟและโรแมนติก ภาพยนตร์นี้สำรวจประเด็นเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีต การให้อภัย และการยอมรับในสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ การเดินทางของการ์ธิกแสดงให้เห็นว่าความรักที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะเติบโตไปพร้อมกัน “Rewind” เป็นภาพยนตร์ที่ไม่เพียงเล่าเรื่องราวความรักที่น่าประทับใจ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า “หากเรามีโอกาสย้อนเวลา เราจะเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่?”