Mackenzie Foy แม็คเคนซี่ ฟอย

ผลงานภาพยนตร์

ดูหนัง The Nutcracker And The Four Realms (2018) เดอะนัทแครกเกอร์กับสี่อาณาจักรมหัศจรรย์

ทั้งหมดที่คลาร่า (แม็คเคนซี่ ฟอย) ต้องการคือกุญแจ – กุญแจที่ไม่เหมือนใครดอกเดียว ที่จะไขกล่องที่ใส่ของขวัญที่ประเมินค่าไม่ได้ จากแม่ผู้จากไป ด้ายสีทองที่ถูกมอบให้เธอในงานปาร์ตี้วันหยุดประจำปีของพ่อทูนหัว ดรอสเซลเมเยอร์ (มอร์แกน ฟรีแมน) นำเธอไปสู่กุญแจที่ปรารถนา ที่หายวับไปอย่างรวดเร็ว สู่โลกคู่ขนานอันลึกลับและแปลกประหลาด ที่นั่นเองที่คลาร่าได้พบกับนายทหารที่ชื่อ ฟิลลิป (เจย์เดน โฟโวร่า-ไนท์) แก๊งค์หนู และเหล่าผู้ดูแลทั้ง 3 อาณาจักร: ดินแดนแห่งเกล็ดหิมะ, ดินแดนแห่งดอกไม้, และดินแดนแห่งขนมหวาน คลาร่าและฟิลลิปต้องรวบรวมความกล้าเพื่อเข้าสู่ดินแดนที่ 4 ที่แสนอันตราย ที่พำนักของคุณแม่จินเจอร์ (เฮเลน มิร์เรน) จอมเผด็จการ เพื่อชิงกุญแจของคลาร่าคืนมาและหวังจะคืนความสงบสุขให้กับโลกที่ไม่แน่นอนนี้

เฮเลน เมียร์เรนต้องเรียนการตีแส้เพื่อเตรียมตัวรับบทเป็นแม่จิงเจอร์ ซึ่งแสดงให้เห็นการเล่นคำในภาพของสาวผมแดง ความผิดพลาด ฮอว์ธอร์นตั้งคำถามว่าคริสต์มาสคืออะไร โดยบอกว่าวันหยุดนี้ไม่ได้มีอยู่ในทั้งสี่อาณาจักร แต่ภายในทั้งสี่อาณาจักรนั้น ต้นสนจะถูกเรียกอย่างชัดเจนว่า “ต้นคริสต์มาส” สองครั้ง คำคม ดรอสเซลเมเยอร์: วันคริสต์มาสอีฟ เป็นช่วงเวลาแห่งความลึกลับ ความคาดหวัง และใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น?เครดิตสุดบ้าไม่มีเครดิตเปิดเรื่องและชื่อเรื่องไม่ปรากฏจนกระทั่งเครดิตท้ายเรื่อง

Black Beauty (2020 film)

มัสแตงป่าเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอตั้งแต่เกิด เธอเกิดมาอย่างอิสระในเทือกเขาโอนาควีรัฐยูทาห์เธออธิบายว่าแม่ของเธอสอนว่าเมื่อม้าตายไป พวกมันจะบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อพักผ่อนท่ามกลางดวงดาว วันหนึ่ง มัสแตงดึงดูดความสนใจของคาวบอยกลุ่มหนึ่ง ซึ่งจับกลุ่มฝูงของเธอ เธอไม่เคยเห็นแม่ของเธออีกเลย ครูฝึกม้าชื่อจอห์น แมนลี ซื้อมัสแตงตัวนั้นและพาเธอไปที่เบิร์ตวิก ซึ่งเป็นสถานสงเคราะห์ม้า แม้ว่าเธอจะชอบจอห์น แต่มัสแตงก็ปฏิเสธที่จะร่วมมือ แต่จอห์นยังคงอดทน มัสแตงเป็นเพื่อนกับม้าอีกสองตัวชื่อจิงเจอร์และเมอร์รีเลกส์

จอห์นได้รับแจ้งว่าน้องสาวของเขาและสามีของเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้เขาต้องดูแลหลานสาวของเขา โจ กรีน โจไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับจอห์น แต่กลับหลงใหลในมัสแตงที่แสนจะขี้เล่น ในที่สุด มัสแตงก็รู้ว่าความเจ็บปวดของโจคล้ายกับความเจ็บปวดของตัวเอง และพวกเขาก็ผูกพันกัน โจฝึกมัสแตงให้เชื่องและตั้งชื่อมันว่าแบล็กบิวตี้ หรือเรียกสั้นๆ ว่าบิวตี้ จอห์นเข้าถึงโจได้โดยให้เธอทำงานในคอกม้าและดูแลบิวตี้ พวกเขาทำให้วลี “จับคู่” กับม้าเป็นที่นิยม แทนที่จะ “ฝึกม้า” จอห์นแจ้งโจว่าพวกเขาจะต้องขายบิวตี้ในที่สุด แต่โจปฏิเสธ

ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังสร้างสัมพันธ์กัน โจก็เศร้าโศกเสียใจกับครอบครัวของเธอ ขณะที่บิวตี้เล่าว่าเธอเกลียดที่เห็นโจอารมณ์เสีย แต่เนื่องจากโจไม่สามารถขี่ม้าได้ เธอจึงตัดสินใจให้โจขี่ข้ามคอกม้า จู่ๆ โจก็เริ่มขี่บิวตี้ จอห์นแสดงอาการตกใจเมื่อเจมส์รายงานให้จอห์นและเฮนรี่ กอร์ดอนทราบ โดยคิดว่าบิวตี้หนีไปแล้ว ในแบบสโลว์โมชั่น โจสัมผัสได้ถึงลมที่พัดผ่านแผงคอของเธอ (ซึ่งก็คือผมของเธอ) ซึ่งจะช่วยให้เธอฟื้นตัวได้ โจยิ้มในขณะที่ขี่เป็นครั้งแรก จนกระทั่งเธอตกลงมาและตกลงบนมัดหญ้า จอห์นเข้ามาช่วยเธอ แต่โจหัวเราะและบอกว่ามันสนุกดี จากนั้นจอห์นจึงฝึกให้โจขี่บิวตี้ หลังจากนั้น โจก็ขี่ไปที่ชายหาดกับบิวตี้ ซึ่งเธอกางแขนออกและเธอกับบิวตี้ก็เป็นหนึ่งเดียวกัน

Interstellar (film)

ในช่วงกลางศตวรรษที่ 21 มนุษยชาติเผชิญกับการสูญพันธุ์เนื่องจากพายุฝุ่นและพืชผลเสียหาย เป็นวงกว้าง โจเซฟ คูเปอร์ อดีต นักบินทดสอบ ของ NASA ที่เป็นหม้าย ทำงานเป็นชาวนาและเลี้ยงดูลูกๆ ของเขา เมอร์ฟและทอม ร่วมกับโดนัลด์ พ่อตาของเขา คูเปอร์อาศัยอยู่ในสังคมหลังความจริงถูกครูของเมอร์ฟตำหนิที่บอกเธอว่าภารกิจอะพอลโลไม่ได้ถูกแต่งขึ้น ระหว่างพายุฝุ่น ทั้งสองค้นพบว่ารูปแบบของฝุ่นในห้องของเมอร์ฟ ซึ่งในตอนแรกเธอคิดว่าเป็นผีเกิดจากความผิดปกติของแรงโน้มถ่วง และแปลเป็นพิกัดทางภูมิศาสตร์สิ่งเหล่านี้นำพวกเขาไปสู่สิ่งอำนวยความสะดวกลับของ NASA ที่นำโดยศาสตราจารย์จอห์น แบรนด์ ซึ่งอธิบายว่า 48 ปีก่อนหน้านี้เวิร์มโฮลปรากฏขึ้นใกล้ดาวเสาร์นำไปสู่ระบบในกาแล็กซี อื่น ที่มีดาวเคราะห์ที่อยู่อาศัยได้ 12 ดวง ตั้งอยู่ใกล้หลุมดำชื่อการ์แกนทัว อาสาสมัครใน การสำรวจ ลาซารัสเคยเดินทางผ่านเวิร์มโฮลเพื่อประเมินดาวเคราะห์ต่างๆ มาแล้ว โดยมิลเลอร์ เอ็ดมันด์ และมันน์ได้รายงานผลลัพธ์ที่น่าพอใจกลับมา

คูเปอร์ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่บังคับยานอวกาศเอนดูรานซ์ ผ่านเวิร์มโฮล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจสร้าง อาณานิคมบน ดาวเคราะห์ที่อยู่อาศัยได้ ที่มี ตัวอ่อนแช่แข็ง 5,000 ตัวและให้แน่ใจว่ามนุษยชาติจะอยู่รอด ในขณะเดียวกัน ศาสตราจารย์แบรนด์จะทำการแก้สมการแรงโน้มถ่วงต่อไป ซึ่งการแก้สมการดังกล่าวจะช่วยให้สามารถสร้างยานอวกาศเพื่ออพยพออกจากโลกได้ คูเปอร์ยอมรับแม้ว่าเมอร์ฟจะไม่ยินยอมและสัญญาว่าจะกลับมา เมื่อเธอปฏิเสธที่จะส่งเขา เขาจึงฝากนาฬิกาข้อมือไว้กับเธอเพื่อเปรียบเทียบเวลาของ พวกเขา เมื่อเขากลับมา